ทราบหรือไม่ว่า “ครีเอทีน” (Creatine) เป็นอาหารเสริมยอดนิยมที่ถูกพูดถึงและนำมาวิจัยกันอย่างแพร่หลาย นักกีฬาส่วนใหญ่ใช้ครีเอทีนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพร่างกาย นับตั้งแต่นั้น อาหารเสริมครีเอทีนก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และด้วยคุณสมบัติของครีเอทีนที่มีประโยชน์มากมาย ไม่ใช่แค่ช่วยเรื่องพละกำลังเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่าง ๆ เรามาคุณสมบัติเด่นและประโยชน์ของครีเอทีน ที่จะช่วยตอบโจทย์กลุ่มคนประเภทใดบ้าง
Building Muscles เสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแกร่งของร้างกาย
เป็นคุณสมบัติโดดเด่นของครีเอทีนเลยทีเดียว เหมาะสำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย เพราะครีเอทีนเป็นสารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย สามารถผลิต ATP ที่ช่วยให้กล้ามเนื้อผลิตพลังงานออกมาในยามที่เราต้องใช้แรงในการออกกำลังกาย ทั้งนี้ จากผลการวิจัยงานหนึ่ง ผู้ที่ออกกำลังกายบริโภคครีเอทีนควบคู่กับการฝึกบริหารกล้ามเนื้ออก ผลปรากฏว่า ผู้ที่ทานครีเอทีนสามารถออกแรงยกน้ำหนักต่อรอบได้มากขึ้นถึง 43% และผลการวิจัยอีกมากมายเกี่ยวกับครีเอทีนที่ตอกย้ำว่า ครีเอทีนมีส่วนช่วยเพิ่มความแข็งแรง ความทนทาน ทำให้ออกกำลังกายได้นาน รวมถึงเพิ่มกำลังได้จริง นอกจากนี้ ครีเอทีนยังมีส่วนช่วยเปลี่ยนแปลงกระบวนการภายในเซลล์ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ ความแข็งแรง และการซ่อมแซม ฟื้นฟูร่างกายอีกด้วย
Losing Weight ต้องการลดน้ำหนัก
ครีเอทีนเป็นตัวช่วยเรื่องการลดน้ำหนักได้ เมื่อทานควบคู่กับการออกกำลังกาย เพราะครีเอทีนมีคุณสมบัติเด่น คือ เพิ่มพลังงาน ความแข็งแรง และความทนทานต่อการออกกำลังกายที่ยาวนาน ทำให้ร่างกายสามารถเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อได้อย่างเต็มที่ และยิ่งมวลกล้ามเนื้อมากขึ้น ก็จะกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ทำให้น้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้นนั่นเอง ไม่เพียงเท่านี้ ครีเอทีนยังมีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด อีกทั้งช่วยให้ร่างกายมีภาวะความไวต่ออินซูลินหรือไม่เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทั้งนี้ จากงานวิจัยทางแพทยศาสตร์และวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกายพบว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ทานครีเอทีน ร่วมกับโปรแกรมการออกกำลังกาย สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดียิ่งขึ้น
Improving Brain Functions ต้องการเสริมสร้างประสิทธิภาพของสมอง
อาหารเสริมครีเอทีน นอกจากจะช่วยเติมพลังด้านการออกกำลังกายแล้ว ยังช่วยเติมพลังสมองด้วย โดยครีเอทีน จะช่วยเพิ่มระดับของฟอสโฟครีเอทีนที่มีอยู่ในกล้ามเนื้อ 95% และในสมอง ตับและไตของเราอีก 5% ดังนั้น หากได้รับครีเอทีนไม่เพียงพอ จะก่อให้เกิดความผิดปกติต่อระบบประสาท รวมถึงส่งผลต่อการบำรุงและพัฒนาระบบสมอง และรักษาภาวะสมดุลพลังงานเซลล์และสมอง อีกทั้งช่วยเรื่องความจำ สามารถป้องกันโรคทางระบบประสาท (Neurological disease) ได้แก่ โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน ภาวะสมองขาดเลือด นอกจากนี้ ครีเอทีนช่วยลดภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย โดยผลการวิจัยหนึ่งได้ทำการทดลองกับผู้ป่วยที่เข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า ผลปรากฏว่า สามารถลดภาวะซึมเศร้าได้ถึง 56% ขณะเดียวกัน หากทานครีเอทีนร่วมกับการบำบัดรักษาโดยใช้ยาต้านโรคซึมเศร้า SSRI (Selective serotonin reuptake inhibitors) ในกลุ่มผู้หญิงที่มีอาการโรคซึมเศร้า จะมีแนวโน้มตอบสนองได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น